แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา คดีมีทางที่ศาลฎีกาจะกลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยแถลงคัดค้าน(อันดับ 149)
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองเป็นบุคคลล้มละลายแล้วยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองไว้ชั่วคราว ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยทั้งสองชั่วคราว โจทก์นำเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) ไว้ ต่อมาศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวตามที่จำเลยทั้งสองร้องขอ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายในอัตราร้อยละ 3.5ของราคาทรัพย์ตามตาราง 5(3) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดังกล่าวศาลชั้นต้นมีคำสั่งนัดพร้อมเพื่อพิจารณาสั่งคำร้องของโจทก์ ในวันนัดพร้อมโจทก์มอบฉันทะให้นายชัยรัตน์แซ่ลิ้ม มาแทน ศาลชั้นต้นจดรายงานกระบวนพิจารณาว่าโจทก์และทนายโจทก์ไม่มาศาล และโจทก์ไม่ได้นำส่งหมายให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่อาจพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนัดพร้อมได้ ให้เลื่อนนัดพร้อมไปวันที่ 25 ธันวาคม 2528เวลา 13.30 นาฬิกา แจ้งวันนัดให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบโดยให้โจทก์วางเงินค่าส่งหมายภายใน 7 วัน ครั้นถึงกำหนดวันและเวลานัดพร้อม โจทก์ไม่มาศาลและไม่ได้วางเงินค่าส่งหมายตามที่ศาลชั้นต้นสั่ง ศาลชั้นต้นถือว่าโจทก์ทิ้งคำร้องจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีของโจทก์ออกเสียจากสารบบความโจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 147,146)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว การขอทุเลาการบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231 นั้น เป็นเรื่องระหว่างคู่กรณีหรือผู้มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ขอทุเลาการบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ศาลได้ชี้ขาดในมูลคดีที่พิพาทกันไว้ก่อนระหว่างรอคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์หรือฎีกา ดังนั้น โจทก์จะมายื่นคำร้องเพื่อขอทุเลาการชำระค่าธรรมเนียมซึ่งโจทก์มีหน้าที่จะต้องเสียตามพระราชบัญญัติล้มละลายจึงหาใช่เป็นกรณีตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว ที่โจทก์จะขอทุเลาการบังคับได้ไม่ให้ยกคำร้อง