คำสั่งคำร้องที่ 674/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต่างพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 จึงไม่รับฎีกาโจทก์
โจทก์เห็นว่า ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยคดีโดยใช้หลักกฎหมายในการชั่งน้ำหนักตามคำพยานของโจทก์จำเลย อันเป็นปัญหาข้อกฎหมายทั้งสิ้น ฎีกาของโจทก์จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยที่ 1 และที่ 4 ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้องโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ 83
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3จึงมีคำสั่งให้ประทับฟ้องเฉพาะความผิดดังกล่าวไว้พิจารณา
ระหว่างพิจารณา จำเลยที่ 2 ที่ 3 หลบหนี ศาลชั้นต้นออกหมายจับและจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 ที่ 3 ชั่วคราว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 110)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 111)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า จำเลยออกเช็คพิพาทให้โจทก์โดยโจทก์ทราบอยู่แล้วว่าธนาคารได้สั่งปิดบัญชีของจำเลยแล้วการออกเช็คของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค โจทก์ฎีกาว่ารับเช็คพิพาทไว้จากจำเลยโดยไม่ทราบว่าธนาคารได้สั่งปิดบัญชีของจำเลยแล้วจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์นั้นชอบแล้วให้ยกคำร้องของโจทก์

Share