แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา บัดนี้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ผู้ร้องซึ่งเป็นทายาทของจำเลยทั้งสองมีความประสงค์ที่จะขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลยที่ 1และ ที่ 2 ผู้มรณะเพื่อดำเนินคดีต่อไป โปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 138 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่งอกริมตลิ่งในส่วนที่เป็นสามเหลี่ยมที่เจ้าพนักงานหมายสีเขียวไว้ในรูปแผนที่พิพาทหมาย จ.1 เนื้อที่ประมาณ 24 ตารางวา เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรื้อถอนรั้วไม้ไผ่ที่ปรากฏในรูปแผนที่พิพาทหมาย จ.1 ตรงจุด 8-5-4 ออกไป ให้จำเลยทั้งสองถมบ่อและคูน้ำในที่งอกริมตลิ่งดังกล่าว ตัดต้นกล้วย ต้นมะพร้าว ที่ปลูกอยู่ในที่งอกริมตลิ่งออกไป ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์วันละ 100 บาท นับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะได้รื้อรั้วถมบ่อ และตัดต้นกล้วย ต้นมะพร้าว คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา (อันดับ 127)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
ผู้ร้องยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 136)
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องเสร็จแล้ว มีคำสั่งให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนส่งศาลฎีกา (อันดับ 140)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้นายพรเทพ เมืองอู่ ผู้ร้องเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ผู้มรณะได้ตามคำร้อง