แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลล่างได้ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายโจทก์ที่ 1 ที่ 2 ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 112 แผ่นที่ 2)
คดีสองสำนวนนี้ จำเลยเป็นบุคคลเดียวกัน โดยเดิมจดทะเบียนบริษัทชื่อ บริษัทโอเวอร์ซีส์ซีคิวริตี้ส์แอนด์อินดัสเตรียลคอนเชาล์เทอน จำกัดต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทหลักทรัพย์โอชิโก้ จำกัด ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกันโดยเรียกโจทก์ในสำนวนแรกว่า โจทก์ที่ 1 และเรียกโจทก์ในสำนวนหลังว่า โจทก์ที่ 2
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน441,000 บาท ชำระเงินแก่โจทก์ที่ 2 จำนวน 740,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 12 ต่อปีในต้นเงิน 300,000บาท และต้นเงิน 500,000 บาท นับจากวันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระแก่โจทก์ทั้งสองเสร็จสิ้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 111,110)
จำเลยได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์โดยจำเลยได้วางโฉนดที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของนายสุขเทพจันทร์ศรีชวาลาจำนวน 1 ฉบับเป็นหลักประกัน และนายสุขเทพจันทร์ศรีชวาลา ได้ทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น(อันดับ 99,105)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ทั้งสองสำนวน พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 12 ต่อปี ในต้นเงินสามแสนบาทและห้าแสนบาทตามลำดับ นับจากวันฟ้องเป็นเวลา 6 ปี มาวางศาลจนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง