แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา มีทางที่ศาลฎีกาจะกลับหรือแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 78 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าปรับจำนวน 408,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง (วันที่ 11 สิงหาคม 2526) จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระค่าปรับ 100,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
โจทก์และจำเลยต่างฎีกา เฉพาะจำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 75,73,72)
จำเลยได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์(อันดับ 56)
ศาลชั้นต้นนัดพิจารณาหลักประกันวันที่ 31 พฤษภาคม 2527ในวันนัดพิจารณาหลักประกันศาลชั้นต้นมีคำสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาว่า ไม่มีคู่ความฝ่ายใดมาศาล และไม่ปรากฏว่าจำเลยได้วางหลักประกันภายในเวลาที่ศาลกำหนด จึงเป็นอันว่าจำเลยไม่ได้รับการทุเลาการบังคับต่อมาในวันเดียวกันนั้น จำเลยยื่นคำแถลงขอวางหลักประกันศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เสนอเมื่อศาลจดรายงานกระบวนพิจารณาเสร็จไปแล้ว ให้เป็นไปตามที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งประกอบกับรายงานกระบวนพิจารณาศาลแพ่งลงวันนี้ (อันดับ 58,59 แผ่นที่ 2)
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง (อันดับ 64) ไม่ปรากฏคำสั่งศาลอุทธรณ์ในสำนวนที่ส่งมาศาลฎีกา
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยหาประกันสำหรับต้นเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี เป็นเวลา 5 ปี มาให้จนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง