คำสั่งคำร้องที่ 49/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า คดีนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาเนื่องจากในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นโจทก์ได้ส่งเอกสารหมาย จ.ล.1 เพื่อตรวจพิสูจน์ว่า เป็นเอกสารที่ทำขึ้นมาใหม่และปลอมลายพิมพ์นิ้วมือของนางแกน พันธ์หล่อมโส มารดาโจทก์หรือไม่แต่กองพิสูจน์หลักฐานกรมตำรวจไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ บัดนี้โจทก์เพิ่งพบลายพิมพ์นิ้วมือที่มารดาโจทก์พิมพ์ไว้ต่อทางราชการก่อนตาย คือในหนังสือสัญญาแบ่งให้ที่ดินในช่องผู้แบ่งให้ที่ทำต่อหน้านายอำเภอนาเชือกเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2515 ซึ่งแนบพร้อมคำร้องขอให้ส่งไปตรวจพิสูจน์กับลายพิมพ์นิ้วมือในเอกสารหมายจ.ล.1 ว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของคนเดียวกันหรือไม่หากเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของคนเดียวกันทั้งสองฉบับ โจทก์รับว่าที่พิพาทบิดามารดาโจทก์ได้ยกให้จำเลยแล้ว หากเป็นลายพิมพ์นิ้วมือคนละคนกันแสดงว่าเอกสารหมาย จ.ล.1 เป็นเอกสารที่ทำขึ้นใหม่และเป็นเอกสารปลอม โปรดมีคำสั่งให้ส่งลายพิมพ์นิ้วมือของมารดาโจทก์ในเอกสารทั้งสองฉบับดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์ด้วย
หมายเหตุ จำเลยและจำเลยร่วมแถลงคัดค้าน (อันดับ 119)ระหว่างพิจารณา กระทรวงการคลัง ยื่นคำร้องสอดขอเข้าเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 156 และเลขที่ 143 ตำบลนาเชือกอำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม ให้โจทก์เป็นผู้มีสิทธิขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) ต่อไป ให้จำเลยชดใช้ค่าทดแทนเป็นเงิน 6,000 บาท และชดใช้ค่าทดแทนแก่โจทก์อีกปีละ 6,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าคดีจะเสร็จเด็ดขาดและห้ามจำเลยพร้อมบริวารเข้าไปเกี่ยวข้องในที่ดินของโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 110,112)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ไม่มีเหตุสมควรอนุญาตตามขอ ให้ยกคำร้อง

Share