คำสั่งคำร้องที่ 471/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า ผู้ร้องขัดทรัพย์ทั้งสองได้ยื่นฎีกาไว้ บัดนี้ผู้ร้องขัดทรัพย์ทั้งสองมีความประสงค์ขอถอนฎีกาและคำร้อง ขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างฎีกา โปรดอนุญาต
หมายเหตุ ทนายโจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาฎีกาและสำเนา คำร้องขอทุเลาการบังคับคดี (อันดับ 39)
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ปล่อยที่ดินของ ผู้ร้องขัดทรัพย์ทั้งสองตามตราจองเลขที่ 408 และโฉนด เลขที่ 8541,8545,8546 รวม 4 แปลง พร้อมสิ่งปลูกสร้างโจทก์อุทธรณ์คำสั่งและยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งให้งดการถอนการยึดที่ดินทั้ง 4 แปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้างไว้ โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิพากษามีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
ศาลชั้นต้นนัดพิจารณาคำร้องแล้วบันทึกว่า เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งปล่อยที่ดินทั้ง 4 แปลงแล้วฝ่ายผู้ร้องขัดทรัพย์ ได้โอนที่ดินให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้ว 1 แปลง หลังจากนั้นศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งงดการถอนการยึด คงเหลือที่ดินที่จะยึดได้เพียง 3 แปลงเท่านั้น ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีไปดำเนินการยึดที่ดินที่เหลือตามตราจองเลขที่ 908 และโฉนดเลขที่ 8515,8546 ต่อไป
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
ผู้ร้องขัดทรัพย์ทั้งสองฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ (อันดับ 37,36)
คดีอยู่ระหว่างการส่งสำเนาฎีกาและสำเนาคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีให้แก่โจทก์ แต่ผู้ร้องขัดทรัพย์ยังมิได้ส่งสำเนาฎีกาและสำเนาคำร้องดังกล่าวให้แก่โจทก์
ผู้ร้องขัดทรัพย์ทั้งสองยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 40)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ผู้ร้องทั้งสองฎีกาได้คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาสามในสี่ จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

Share