แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา มีทางชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายโจทก์ที่ 1 ที่ 2 โจทก์ร่วมที่ 1 และทนายโจทก์ร่วมที่ 2 ต่างแถลงคัดค้าน (อันดับ 219,217,215)
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นเรียกพันโทสำเริงภู่ไพบูลย์และนางสมพรหาญวิสูตรศิริ เข้ามาเป็นโจทก์ร่วมตามคำขอของจำเลยและให้เรียกว่าโจทก์ร่วมที่ 1 และโจทก์ร่วมที่ 2 ตามลำดับ และจำเลยได้มรณะ นายธวัชจุลเจิม ทายาท ขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลยผู้มรณะ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนบ้าน 2 หลังที่ปลูกในที่ดินโจทก์ที่ 2 และโจทก์ร่วมที่ 2 ออกไปจากที่ดิน โดยห้ามมิให้จำเลยและบริวารเข้ามาเกี่ยวข้องอีกต่อไป ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเดือนละ109.25 บาท ให้โจทก์ นับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยชำระเงินให้โจทก์เสร็จสิ้น ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระค่าเสียหายเดือนละ109.25 บาท ให้โจทก์นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะรื้อถอนบ้านและออกไปจากที่ดินโจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา และทนายจำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 212,211)
จำเลยได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์โดยจำเลยได้วางเงินสดจำนวน 5,899.50 บาท ไว้เป็นประกันสำหรับค่าเสียหายที่จะต้องชำระแก่โจทก์ตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์ (อันดับ 202,206)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ทุเลาการบังคับเรื่องการรื้อถอนบ้าน 2 หลังไว้ในระหว่างฎีกา ส่วนค่าเสียหายหากจำเลยหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระให้โจทก์ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นเวลา 8 ปีนับแต่วันฟ้องมาให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกามิฉะนั้นให้ยกคำร้องเฉพาะเรื่องค่าเสียหาย