แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยให้การว่าไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยเพราะโจทก์กระทำความผิดอาญาฐานลักทรัพย์นายจ้าง และโจทก์ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง จากข้อเท็จจริงเดียวกัน ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า แม้ในทางคดีอาญาไม่อาจจะเอาผิดกับโจทก์ได้ ก็ถือว่าโจทก์ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย โจทก์อุทธรณ์ว่าคำตัดสินดังกล่าวเป็นการวินิจฉัยคดีตามข้อต่อสู้ของจำเลยซึ่งขัดแย้งกันเอง มิได้เป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงใด แต่ก็พอแปลอุทธรณ์ได้ว่าศาลแรงงานกลางวินิจฉัยคดีไปตามคำให้การที่ไม่ชอบแล้วมีคำพิพากษาเป็นการไม่ชอบ เป็นอุทธรณ์ข้อกฎหมาย จึงให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยจำนวน37,500 บาท สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าจำนวน 18,750 บาทสินจ้างในส่วนที่ค้างชำระ 6,250 บาท และค่าขาดประโยชน์จำนวน 440,000 บาท
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าจ้างค้างชำระจำนวน2,500 บาท ให้โจทก์ คำขอนอกจากนี้ให้ยกเสีย
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า อุทธรณ์เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 แม้จะอ้างในรูปข้อกฎหมาย แต่เนื้อหาที่แท้จริงเป็นการเถียงข้อเท็จจริงเรื่องที่ศาลฟังว่าโจทก์ประมาทเลินเล่อทำให้นายจ้างเสียหาย จึงไม่รับ
โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งว่า ศาลแรงงานกลางยกฟ้องโจทก์ไม่เป็นไปตามประกาศคุ้มครองแรงงานโดยไม่ได้หยิบยกข้อต่อสู้คำให้การของจำเลยมาวินิจฉัยให้ตรงตามประเด็นที่จำเลยให้การต่อสู้คดี เป็นอุทธรณ์ข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับอุทธรณ์โจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
ศาลฎีกามีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว โจทก์อุทธรณ์ว่า จำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยโดยกล่าวอ้างว่าโจทก์กระทำความผิดอาญาฐานลักทรัพย์นายจ้าง และโจทก์ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจากข้อเท็จจริงเดียวกัน เป็นคำให้การที่ขัดกันเพราะหากโจทก์กระทำความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้างก็ไม่เป็นการประมาทเลินเล่อทำให้นายจ้างเสียหายอย่างร้ายแรงกลับกันฉันใดก็ฉันนั้น การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า แม้ในทางคดีอาญาไม่อาจจะเอาผิดกับโจทก์ได้ก็ถือว่าโจทก์ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายจึงเป็นการวินิจฉัยคดีตามข้อต่อสู้ของจำเลยซึ่งขัดแย้งกันเองดังนี้อุทธรณ์ของโจทก์มิได้โต้เถียงข้อเท็จจริงใด แต่พอแปลปัญหาตามอุทธรณ์ได้ว่า การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยคดีไปตามคำให้การที่ไม่ชอบของจำเลยแล้วมีคำพิพากษาเป็นการไม่ชอบ ซึ่งเป็นอุทธรณ์ข้อกฎหมาย จึงให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้ดำเนินการต่อไป”