แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฯลฯ จำเลยที่ 3ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าจำเลยที่ 3 เป็นเพียงผู้สลักหลังเช็คพิพาทจำเลยที่ 3 จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง ได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยที่ 3 ยกขึ้นฎีกานี้ จำเลยที่ 3 มิได้ยกขึ้นต่อสู้ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จึงต้องห้ามฎีกาข้อกฎหมาย ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 ประกอบมาตรา 225 เพราะข้อกฎหมายที่จำเลยที่ 3 ยกขึ้นฎีกานั้นมิใช่ข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ๆ จึงไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 3
จำเลยที่ 3 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 3 เป็นฎีกาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยว่า ผู้สลักหลังจะมีความผิดในฐานะผู้ออกเช็คตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3 หรือไม่ โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 3ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 87)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
จำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยที่ 2 ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว และออกหมายจับ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยที่ 3 มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน
จำเลยที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 81,82)
จำเลยที่ 3 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 84)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มีบทบัญญัติให้บุคคลจักต้องรับโทษทางอาญา และกำหนดโทษไว้ เป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ตามฎีกาจำเลยที่ 3 ว่า จำเลยที่ 3 ไม่ต้องรับผิดทางอาญา เพราะเป็นเพียงผู้สลักหลังเช็คตามฟ้อง จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ไม่ต้องห้ามที่จะยกปัญหานี้ขึ้นอ้างในชั้นฎีกาให้รับฎีกาจำเลยที่ 3 ไว้พิจารณา
