แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องทั้งสามฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า อธิบดี ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่าคดีไม่มีเหตุสมควรที่จะฎีกา ในข้อเท็จจริง ให้ยกคำร้อง ฎีกาของผู้ร้องทั้งสามล้วน แล้วแต่เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสามที่แก้ไขเมื่อไม่ได้รับอนุญาตให้ฎีกา จึงไม่รับฎีกาของผู้ร้องทั้งสามคืนค่าขึ้นศาล ผู้ร้องทั้งสามเห็นว่า ฎีกาของผู้ร้องในข้อ 1 เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยหรือไม่ โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาในข้อ 1 ของผู้ร้องไว้พิจารณาต่อไปด้วย หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว หรือไม่ คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ระหว่างพิจารณาโจทก์จำเลยยอมความกันโดยจำเลยยอมออกจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่พิพาทนั้นหากผิดนัดยอมใช้ค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมแต่จำเลย ผิดนัด โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงาน บังคับคดีเพื่อบังคับคดีให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินพิพาท และเพื่อบังคับคดียึดทรัพย์ชำระหนี้ค่าเสียหายตามคำพิพากษา ตามยอม ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีแล้ว ต่อมาผู้ร้องทั้งสาม ยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องไม่ใช่บริวารของจำเลย ผู้ร้องทั้งสาม เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและบ้านที่แท้จริงขอให้งดการ บังคับคดี และขอให้ยกคำร้องของโจทก์ ซึ่งผู้ร้องจะได้ดำเนิน การขอเพิกถอนนิติกรรมต่อไป ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ตามคำร้อง ของผู้ร้องทั้งสามไม่ใช่เป็นเรื่องร้องขัดทรัพย์ และไม่ใช่เป็น เรื่องแสดงอำนาจพิเศษตามมาตรา 142(1) ไม่มีเหตุที่จะให้งด การบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292 ไม่จำต้องไต่สวน ให้ยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องทั้งสามฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้อธิบดี ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์สั่งไม่อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง และศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 39,38,46) ผู้ร้องทั้งสามจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 48)
คำสั่ง ฎีกาของผู้ร้องในข้อ 1 เป็นเรื่องโต้เถียงว่า เมื่อผู้ร้องทั้งสามทราบหมายบังคับคดีจึงมายื่นคำร้องต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 จัตวา(3)คำร้องของ ผู้ร้องทั้งสามเป็นการแสดงอำนาจพิเศษไว้แล้วว่า ผู้ร้องไม่ใช่บริวารจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(1) ชอบที่ศาลจะทำการไต่สวนต่อไป เป็นฎีกาในปัญหา ข้อกฎหมาย ให้รับฎีกาของผู้ร้องทั้งสามในข้อนี้ไว้พิจารณาต่อไป