แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ศาลฎีกามีคำสั่งว่า โจทก์ทิ้งฎีกา ให้จำหน่าย คดีออกจากสารบบความของศาลฎีกา คดีนี้โจทก์ทราบคำสั่งศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2537 และได้วางเงินค่านำส่งหมายและสำเนาฎีกาให้แก่จำเลยตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2537 มิใช่นำหมายในวันที่ 28 มิถุนายน 2537 ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ศาลแต่อย่างใด ดังนั้นโจทก์จึงวางเงินนำส่งหมายและสำเนาฎีกา ให้แก่จำเลยภายในเวลา 15 วัน ตามคำสั่งศาลแล้วโจทก์มิได้ เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในกำหนด อันถือว่าโจทก์ทิ้งฎีกา แต่อย่างใด ขอศาลฎีกาโปรดเพิกถอนคำสั่งที่ให้จำหน่ายฎีกา ของโจทก์ และมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 89) ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากการเป็นสามี ภริยากัน ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา (อันดับ 66) ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องว่าโจทก์มิได้มานำส่งสำเนาฎีกา ให้แก่จำเลยภายในเวลาที่ศาลกำหนด ขอให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลย ทิ้งฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งสำนวนให้ศาลฎีกาพิจารณา (อันดับ 73) ศาลฎีกามีคำสั่งที่ว่า 3880/2537 โจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดี ภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดไว้เพื่อการนั้น โดยได้ส่ง คำสั่งให้แก่โจทก์โดยชอบแล้ว จึงเป็นการทิ้งฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ประกอบ มาตรา 246,247 ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลฎีกา (อันดับ 82) โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 83) ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งให้รวบรวมถ้อยคำ สำนวนส่งศาลฎีกาพิจารณา (อันดับ 94)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว ได้ความจากทางไต่สวนคำร้องโจทก์โดยจำเลย ไม่สืบพยานคัดค้านว่า เดิมศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้โจทก์จำเลย หย่าขาดจากกัน ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2537 ให้โจทก์นำส่ง หมายนัดและสำเนาฎีกาให้จำเลยภายใน 15 วัน ทนายความโจทก์ ได้รับหมายนัดศาลเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2537 ต่อมาวันที่ 3 เดือนเดียวกันทนายความโจทก์ให้เสมียนทนายความนำหมายนัด ส่งสำเนาฎีกาโดยกรอกแบบคำขอทางราชการเอกสารหมาย ร.1 และ เสียเงินค่านำหมายให้นายชาติชาย ผลฉาย พนักงานนำหมายกรมบังคับคดีปรากฏตามเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 2 และสำเนาภาพถ่ายเอกสาร ท้ายคำร้องหมายเลข 4-5 พนักงานได้ส่งหมายและรายงาน การส่งหมายให้ทนายความโจทก์ทราบว่า ได้ส่งหมายนัดสำเนาฎีกาได้ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2537 ต่อมาวันที่ 1 กรกฎาคม 2537 จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ศาลทำการตรวจสอบแต่ เจ้าหน้าที่ศาลรายงานศาลชั้นต้นผิดพลาดไปว่า โจทก์นำส่ง หมายนัดสำเนาฎีกาให้จำเลยเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2537 ทั้งที่ความจริงเป็นวันที่ 3 มิถุนายน 2537 ดังนี้ ที่ศาลฎีกา มีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฎีกาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ของศาลฎีกา จึงเป็นการสั่งไปโดยผิดหลง ให้เพิกถอนคำสั่งศาลฎีกาที่ 3880/2537 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2537 เสียและให้ศาลชั้นต้นส่งสำนวนคืนศาลฎีกาเพื่อดำเนินการต่อไป