คำสั่งคำร้องที่ 3025/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า รับฎีกาเฉพาะที่กล่าวไว้ ในหน้า 13(ข้อ 2 ย่อหน้าที่ 3 และ 4) ส่วนฎีกาในหน้า 12 ข้อ 2 ย่อหน้าที่ 2) เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงมีคำสั่งไม่รับ
โจทก์เห็นว่า ฎีกาในส่วนหน้า 12(ข้อ 2 ย่อหน้าที่ 2)เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ หากยังไม่ทราบ ว่าการละเมิดเกิดขึ้นเมื่อใด และไม่ทราบว่าผู้ใดทำละเมิด ต่อโจทก์ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาในส่วนหน้า 12ดังกล่าว ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยทั้งหกยังไม่ได้รับสำเนาคำร้องศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ถึงที่ 6ร่วมกันคืนหรือชดใช้ค่าเสียหายซึ่งเป็นค่าก่อสร้างจำนวน 3 แห่งให้แก่โจทก์ โดยคิดค่าเสียหายเป็นเงินแห่งละ 16,035 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้อง(วันที่ 6 กรกฎาคม 2532) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแต่ทั้งนี้เมื่อคำนวณค่าเสียหายดังกล่าวแล้วต้องไม่เกินจำนวน 112,245 บาท หักด้วยจำนวน 68,140 บาทแล้ว
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 130)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 141)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 2 ให้การและแก้ไขคำให้การข้อ 5ไว้ว่า จำเลยที่ 2 ขอตัดฟ้องโจทก์ว่าการละเมิดแห่งคดีนี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2519 อันเป็นวันที่จำเลยที่ 1 ได้เบิกเงิน ไปจากคลังจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งนับถึงวันฟ้องพ้น 10 ปีมาแล้ว และหากจะนับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดก็พ้น 1 ปีมาแล้ว คดีจึงขาดอายุความสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิด โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเอาแก่จำเลยที่ 2 ได้ ฉะนั้นการที่ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้ รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันที่ 11 กันยายน 2529 แล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2532 ซึ่งเกินกว่า 1 ปี คดีโจทก์ขาดอายุความ จึงเป็นการวินิจฉัยไปตามข้อเถียงของจำเลยที่ 2 ตามที่ ศาลชั้นต้นกำหนดไว้เป็นประเด็นข้อพิพาทว่า คดีขาดอายุความ หรือไม่ที่โจทก์ฎีกาข้อ 2 ย่อหน้าที่ 2 ว่า จำเลยที่ 2 ให้การ ต่อสู้ว่า โจทก์ทราบเหตุคดีนี้ตั้งแต่ปี 2525ถึง 2526 คดีขาดอายุความ โดยไม่ได้ยกข้อต่อสู้ว่า โจทก์ได้รู้ถึงการละเมิด และรู้ตัวผู้จะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้วในวันที่ 11 กันยายน 2529 คำวินิจฉัยของศาลล่างทั้งสองจึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงที่เลี่ยงกล่าวให้ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาในข้อนี้ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share