แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาตให้ทุเลาการบังคับโจทก์ไว้ในระหว่างฎีกา
จำเลยทั้งหกเห็นว่า เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะคดีนี้โจทก์ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่พิพากษายกเลิกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้คุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาตามคำขอของโจทก์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้คุ้มครองชั่วคราวนั้น เป็นการห้ามมิให้มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทพิพาทไว้ก่อน ดังนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกเลิกคำสั่งนี้ ก็เท่ากับไม่มีการคุ้มครองชั่วคราวอีกต่อไปทั้งไม่มีการบังคับโจทก์หรือคู่ความฝ่ายใด กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะทุเลาการบังคับได้ และโดยที่คดีนี้ศาลชั้นต้นยังไม่มีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ ศาลฎีกาจึงยังไม่มีอำนาจพิจารณาคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาของโจทก์ได้ คำสั่งศาลฎีกาที่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับโจทก์ไว้ในระหว่างฎีกาจึงไม่ ชอบด้วยกฎหมายและทำให้จำเลยทั้งหกเสียหายเพราะนายทะเบียน หุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครได้อาศัยคำสั่งที่อนุญาตให้ ทุเลาการบังคับนี้ขีดฆ่ารายการจดทะเบียนกรรมการบริษัท พิพาทที่ได้จดไว้โดยชอบด้วยกฎหมายออกจากสารบบทะเบียน
โปรดมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา และให้ศาลชั้นต้นแจ้งการเพิกถอนคำสั่งไปยัง นายทะเบียน สำนักทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครด้วย
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (สำนวนตอนที่ 3 อันดับ 11)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของบริษัทพิพาทและยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครรับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทพิพาทเป็นการชั่วคราวในกรณีฉุกเฉินศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ใช้วิธีการชั่วคราวตามคำร้อง(สำนวนตอนที่ 1 อันดับ 8,11)
จำเลยทั้งหกขอให้ศาลชั้นต้นยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง (สำนวนตอนที่ 2อันดับ 20,27 แผ่นที่ 3)
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกเลิกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ห้ามมิให้นายทะเบียนสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครรับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทพิพาทเป็นการชั่วคราวนั้นเสีย (สำนวนตอนที่ 2 อันดับ 44)
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (สำนวนตอนที่ 2อันดับ 47)
โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาและยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา (สำนวนตอนที่ 2อันดับ 49 แผ่นที่ 1,8)
ศาลฎีกามีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป(คำสั่งคำร้องที่ 1135/2534) และสั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับของโจทก์ว่า อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา (คำสั่ง คำร้องที่ 3136/2534)
ทนายจำเลยทั้งหกยื่นคำร้องนี้ (สำนวนตอนที่ 3 อันดับ 5)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว โจทก์ยื่นคำขอในเหตุฉุกเฉินขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามชั่วคราวก่อนพิพากษา มิให้นายทะเบียนแห่งสำนักงาน ทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครรับจดทะเบียนตั้งกรรมการใหม่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอของโจทก์ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ยกเลิกคำสั่งที่ได้ ออกตามคำขอในเหตุฉุกเฉินของโจทก์ ฉะนั้นที่โจทก์ยื่นคำร้อง ขอให้ทุเลาการบังคับตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยอย่าเพิ่ง ให้ยกเลิกคำสั่งศาลชั้นต้นในระหว่างฎีกานั้น จึงเป็นเรื่อง เดียวกันกับที่โจทก์ยื่นคำขอในเหตุฉุกเฉินที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกเลิกคำสั่งไปแล้วนั่นเอง มิใช่เป็นกรณีขอทุเลาการบังคับตามคำพิพากษาของศาลหรือขอให้มีคำสั่งกำหนดวิธีการ เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ที่ศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ เป็นการสั่ง โดยผิดหลง อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 จึงให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวนี้เสีย แจ้งคำสั่งให้ นายทะเบียนสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร ทราบด้วย