คำสั่งคำร้องที่ 2944/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คำสั่งศาลอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างพิจารณา ไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228,247

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำนองของจำเลยที่ 1 เพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์ ซึ่งได้ทำการขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2534 ต่อมาจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดดังกล่าว ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์คำสั่งพร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์สั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับว่ากรณีไม่ใช่เรื่องขอทุเลาการบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231แต่เป็นเรื่องขอให้คุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 พิเคราะห์แล้วเห็นว่าไม่มีเหตุสมควรที่จะสั่งให้งดการดำเนินการเกี่ยวกับการขายทอดตลาดตามคำร้องของผู้ร้อง ให้ยกคำร้อง

จำเลยที่ 1 ฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของผู้ร้องเป็นเรื่องฎีกาคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลอุทธรณ์ แต่คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดของศาลอุทธรณ์ ผู้ร้อง (จำเลยที่ 1) ยังไม่มีสิทธิตามกฎหมายที่จะฎีกาได้ ไม่รับฎีกา

จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องว่า ถ้าให้บังคับคดีไปตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ในขณะนี้ จำเลยที่ 1 จะต้องขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินและบ้านพิพาทซึ่งมีผลเท่ากับจำเลยต้องคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาด จำเลยจะได้รับความเสียหายมาก หากจำเลยที่ 1 ชนะคดีในที่สุดก็จะต้องฟ้องเรียกคืนจากบุคคลภายนอกอีกเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ขอศาลฎีกามีคำสั่งให้รับฎีกาคำสั่งของจำเลยที่ 1 ด้วย

ศาลฎีกามีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 1 ฎีกาคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228 ประกอบด้วยมาตรา 247 จำเลยที่ 1 ย่อมฎีกาได้ จึงให้รับฎีกาจำเลยที่ 1 ไว้ดำเนินการต่อไป”

Share