คำสั่งคำร้องที่ 2921/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าฎีกาของจำเลยทั้งสองเป็นฎีกาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับฎีกา
จำเลยทั้งสองเห็นว่า ฎีกาที่ว่า การที่จำเลยทั้งสองยื่นใบขนส่งสินค้าขาเข้าและใบรายการสินค้า เอกสารหมาย จ.2 และ จ.3 โดยมิได้สำแดงเครื่องหมายการค้าเบนซ์ (BENZ) และบอร์จแอนด์เบค (BORGE&BECK) ไว้ และจำเลยทั้งสองมิได้แสดงหมายเลขกำกับสินค้าอันเป็นเท็จ จึงไม่เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2467 และคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ ในเรื่องราคาสินค้านั้นเป็นการวินิจฉัยนอกเหนือจากข้อเท็จจริง ที่ปรากฏในสำนวน เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของ จำเลยทั้งสองด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27,99 เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนักที่สุด ตามพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. 2469 มาตรา 27 ปรับจำเลยทั้งสองเป็นเงินสี่เท่าของราคาของ ซึ่งได้รวมค่าอากร 1,722,560.40 บาท ถ้าจำเลยที่ 1ไม่ชำระค่าปรับ ให้ยึดทรัพย์สินใช้ค่าปรับตามมาตรา 29 ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 66)
จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 67)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยทั้งสองฎีกาว่า จำเลยทั้งสอง มิได้สำแดงเครื่องหมายการค้าและหมายเลขกำกับสินค้าอันเป็นเท็จย่อมไม่เป็นความผิดตามฟ้องนั้น เป็นการโต้แย้งดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ในการฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวนจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง และที่ฎีกาอีกว่า ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเรื่องราคาสินค้านั้น เป็นการวินิจฉัยนอกเหนือ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวน ก็ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ มิได้ฟังข้อเท็จจริงนอกจากที่ปรากฏในสำนวนแต่อย่างใด แท้จริงแล้วจำเลยทั้งสองโต้แย้งว่า โจทก์ไม่มีพยานหลักฐาน มาสืบพิสูจน์ในเรื่องราคาสินค้า ซึ่งการรับฟังพยานหลักฐานใด ว่าเพียงพอหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาล จึงเป็นฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริงเช่นเดียวกัน ต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสองชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share