คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1033/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้ ส. ได้ชำระเงินค่าไถ่ที่ดินพิพาทจากการขายฝากแล้วมิได้จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม แต่การครอบครองที่ดินพิพาทของ ส.นับแต่บัดนั้นส.ย่อมมีเจตนายึดถือเพื่อตนเมื่อผู้ร้องได้รับการยกให้ที่ดินพิพาทจากส.โดยส.มอบการครอบครองให้ แล้วผู้ร้องได้ครอบครองที่พิพาทมาจนส.ถึงแก่กรรมและหลังจากนั้นจนถึงวันที่ผู้ร้องมาร้องต่อศาลขอแสดงกรรมสิทธิ์ ก็ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้โต้แย้งการครอบครองของผู้ร้องแต่ประการใด ถือว่าผู้ร้องครอบครองที่ดินพิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันตลอดมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ผู้ร้องย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า นางสิน ใจธรรม ได้นำที่ดินโฉนดเลขที่67 และ 887 ไปขายฝากกับจ่าสิบเอกสุรชัย วรพรพิสิฐพล มีกำหนด2 ปี ต่อมานางสิน ได้ชำระเงินไถ่ถอนการขายฝากครบถ้วนและได้รับโฉนดที่ดินคืนแล้ว แต่ไม่ได้จดทะเบียนการไถ่ถอน นางสินจึงได้ครอบครองที่ดินทั้งสองโฉนดดังกล่าวนับแต่นั้นเป็นต้นมาโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ต่อมานางสินได้ยกที่ดินทั้งสองแปลงให้ผู้ร้อง หลังจากนั้นผู้ร้องได้ครอบครองที่ดินดังกล่าวโดยสงบเปิดเผย และด้วยเจตนาเป็นเจ้าของต่อมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ผู้ร้องจึงได้กรรมสิทธิ์ ขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์และให้ใส่ชื่อผู้ร้องเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินทั้งสองแปลง
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านได้ซื้อฝากที่ดินพิพาทจากนางสินโดยมีกำหนดไถ่คืนภายใน 2 ปี เมื่อครบกำหนดไถ่แล้วนางสินไม่ไถ่คืนกรรมสิทธิ์ในที่ดินทั้งสองแปลงจึงตกเป็นของผู้คัดค้านนับแต่ซื้อฝาก หลังจากนั้นนางสินได้ขออาศัยอยู่ในที่ดินต่อมา จึงไม่มีอำนาจยกที่ดินให้แก่ผู้ร้อง ดังนั้นผู้ร้องจึงอยู่ในที่ดินโดยอาศัยสิทธิของผู้คัดค้านด้วย ผู้ร้องไม่อาจมาร้องแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ได้ขอให้ยกคำร้องขอ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอ
ผู้ร้องอุทธรณ์ โดยผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีนั้นในศาลชั้นต้นรับรองให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 67เลขที่ดิน 31 และโฉนดเลขที่ 887 เลขที่ดิน 20 ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 13 บ้านมุ่งลำใย ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง ให้ใส่ชื่อผู้ร้องเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินทั้งสองแปลง
ผู้คัดค้านฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองให้ฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่า เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2517 นางสิน ใจธรรม ยายของผู้ร้องได้นำที่ดินพิพาทขายฝากแก่ผู้คัดค้านมีกำหนดไถ่คืนใน 2 ปีเมื่อขายฝากแล้วนางสินกับผู้ร้องครอบครองทำกินในที่พิพาทตลอดมา หลังจากนางสินถึงแก่กรรมแล้วผู้ร้องก็ครอบครองทำกินในที่พิพาท ต่อมามีปัญหาตามฎีกาของผู้คัดค้านว่า ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาททั้งสองแปลงโดยการครอบครองแล้วหรือไม่เชื่อว่าฝ่ายนางสินผู้ขายฝากโดยนายปรารถนาได้นำเงินไปชำระค่าไถ่ที่ดินพิพาททั้งสองแปลงจากผู้คัดค้านเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม2519 จริง ผู้คัดค้านจึงได้คืนโฉนดที่ดินเอกสารหมาย ร.1 และ ร.2ให้แก่นายปรารถนา และบันทึกไว้ชัดเจนในด้านหลังเอกสารหมาย ร.4เช่นนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่านางสินได้ชำระเงินค่าไถ่ที่ดินพิพาทคืนจากผู้คัดค้านแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2519 แม้มิได้จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม การครอบครองที่ดินพิพาทนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมานางสินย่อมต้องมีเจตนายึดถือการครอบครองเพื่อตน เมื่อผู้ร้องได้รับการยกให้ที่ดินพิพาทต่อจากนางสินโดยนางสินมอบการครอบครองให้ด้วยการแสดงเจตนาผู้ร้องจึงรับมอบการครอบครองตั้งแต่ปี 2520 เป็นต้นมา ทั้งตั้งแต่ก่อนนางสินถึงแก่กรรมจนกระทั่งนางสินถึงแก่กรรมและหลังจากนั้นจนถึงวันที่ผู้ร้องมาร้องต่อศาลขอแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้โต้แย้งคัดค้านการครอบครองของผู้ร้องแต่ประการใด ถือว่าผู้ร้องครอบครองที่ดินพิพาททั้งสองแปลงโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันตลอดมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ผู้ร้องย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโฉนดเลขที่ 67 และ 887 ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้วจังหวัดนครราชสีมา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ชอบแล้ว ฎีกาของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษา ให้ใส่ชื่อผู้ร้องเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินทั้งสองแปลงนั้นไม่ถูกต้องเพราะเป็นหน้าที่ของผู้ร้องที่จะต้องไปดำเนินการให้มีชื่อของตนทางทะเบียนเองปัญหาข้อนี้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็พิพากษาแก้ไขให้ถูกต้องได้”
พิพากษาแก้เป็นว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 67 เลขที่ดิน 31 และโฉนดเลขที่ 887 เลขที่ดิน 20 ตั้งอยู่หมู่ที่ 13 บ้านมุ่งลำใย ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องตามกฎหมาย

Share