แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฎีกาว่าการที่ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าคนขับรถของผู้เอาประกันภัยและจำเลยมีส่วนประมาทเลินเล่อเท่าๆกันโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยและศาลอุทธรณ์ฟังว่าคนขับรถของผู้เอาประกันภัยประมาทฝ่ายเดียวจำเลยไม่ต้องรับผิดพิพากษายืนเป็นการที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต่างกัน แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษายืนก็ถือว่าเป็นการกลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นมิใช่พิพากษายืนตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ฎีกาของโจทก์เช่นนี้เป็นการแปลกฎหมายเข้าข้างตนเองโดยปราศจากเหตุผล แม้จะเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายแต่ก็เป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยส่วนข้อที่ว่าจำเลยที่ 2 ประมาทเลินเล่อฝ่ายเดียวเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248