แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า เนื่องจากคดีนี้ ราคาทรัพย์สินหรือจำนวนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามฎีกา แม้เป็นข้อกฎหมายแต่ก็ไม่เป็นสาระแก่คดี จึงไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่แก้ไข ใหม่ไม่มีผลบังคับแก่คดีนี้ จึงไม่ต้องห้ามฎีกา และฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายอันเป็นสาระสำคัญ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสามได้รับสำเนาคำร้อง หรือไม่
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยทั้งสามรับเงินค่าที่ดินในส่วนของตนในฐานะทายาทโดยธรรมของนางคล้าย ณ สำนักงานวางทรัพย์ศาลจังหวัดปากพนังแล้วไปจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่โจทก์ หากจำเลยทั้งสามไม่ไปจดทะเบียนโอนที่ดินให้ถือเอาคำพิพากษา ของศาลเป็นการแสดงเจตนาแทนจำเลยทั้งสาม
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 187)
โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 189)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่โจทก์ฎีกาว่า การวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ไม่ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เพราะโจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ก่อนมีการแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งประกาศ ใช้เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2534 และกฎหมายดังกล่าวที่แก้ไขนั้นไม่มีผลย้อนหลัง อุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์โดยชอบ และคำฟ้องฎีกาของโจทก์ฉบับลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2536 ก็ชอบเช่นกันนั้น ฎีกาของโจทก์ดังกล่าว เป็นปัญหาข้อกฎหมาย จึงให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป