คำสั่งคำร้องที่ 2812/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า ข้อที่โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยให้โจทก์หยุดงานเกินกว่า 7 วัน เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลแรงงานกลาง และอุทธรณ์โจทก์เป็นอุทธรณ์โต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 ไม่รับอุทธรณ์โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ข้อกฎหมายที่ได้ว่ากล่าวมาแล้วในศาลแรงงานกลาง กล่าวคือ การที่จำเลยสั่งพักหยุดงานโจทก์ 3 วัน และเมื่อครบกำหนดแล้วโจทก์จะกลับเข้าทำงานตามปกติ แต่ได้รับการปฏิเสธจากจำเลย ปัญหาข้อกฎหมายจึงมีว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ตามกฎหมายแล้วหรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 66)โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานในตำแหน่งและอัตราค่าจ้างไม่ต่ำกว่าเดิม หากไม่รับ ให้จำเลยจ่ายค่าเสียหายเป็นเงิน 2,167,200 บาท เงินโบนัสเป็นเงิน 180,600 บาท สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าจำนวน 50 วัน เป็นเงิน 14,333 บาท ค่าชดเชยเป็นเงิน 51,600 บาท ค่าจ้างที่ค้างเป็นเงิน 2,293 บาท และคืนทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมดของโจทก์ที่จำเลยยึดไว้ หากไม่สามารถคืนได้ ก็ให้ใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,000,000 บาทแก่โจทก์
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว(อันดับ 63)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 64)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าอุทธรณ์ของโจทก์ที่ว่าจำเลยให้โจทก์หยุดงานเกินกว่า 7 วัน ถือเป็นการเลิกจ้างโจทก์แล้วนั้น เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลแรงงานกลาง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ที่แก้ไขแล้วประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 31 ที่ศาลแรงงานกลางไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์นั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share