คำสั่งคำร้องที่ 2799/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เป็นฎีกา ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคหนึ่ง เนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ไม่เกิน 5 ปี และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย จึงไม่รับ เป็นฎีกาของจำเลย จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่า การที่อาวุธปืนของกลางวางอยู่ กับพื้นใต้โต๊ะและอยู่ในถุงกระดาษ โดยที่จำเลยไม่ได้พาอาวุธ ติดตัว จะถือว่าจำเลยครอบครองอาวุธปืนโดยยึดถือเพื่อตนหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 113) ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7,8 ทวิ วรรคหนึ่ง,72 วรรคหนึ่ง,72 ทวิ วรรคสอง คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 3,6,7 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ลงโทษฐานมีอาวุธปืนและ เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 1 ปี ฐานพกพาอาวุธปืนติดตัวไปตามทางสาธารณะโดยไม่ได้รับ อนุญาต ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 2 ปี ริบอาวุธปืนกับเครื่องกระสุนปืนของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุม เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก 1 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 108) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 113)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของจำเลยได้กล่าวอ้างข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ว่าที่เจ้าพนักงานตำรวจพบเห็นถุงกระดาษอยู่บนตักจำเลย ก่อนจับกุมเป็นเรื่องจำเลยรับฝากไว้จากเพื่อนทั้ง ๆ ที่ ไม่ทราบว่าภายในบรรจุสิ่งใดไว้ เมื่อเพื่อนกลับจากห้องน้ำจำเลยได้ส่งถุงกระดาษคืน แต่เพื่อนเจ้าของถุงกระดาษบอกให้ จำเลยวางไว้ที่พื้นใต้โต๊ะอาหาร จำเลยจึงปฏิบัติตาม เพื่อนำไปสู่ ข้อกฎหมายที่ว่า จำเลยไม่มีเจตนากระทำความผิด ดังนี้ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่งศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ยกคำร้อง

Share