แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา คดีของจำเลยมีพยานหลักฐานสามารถจะชนะคดีโจทก์ได้ หากมีการบังคับคดีในระหว่างฎีกา ย่อมจะทำให้จำเลยได้รับความเสียหายอย่างมาก เพราะจำเลยจำเป็นต้องใช้รถยนต์โดยสารวิ่งรับส่งผู้โดยสารหารายได้ และใช้ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นที่อยู่อาศัย ทั้งเป็นทรัพย์ที่มีราคาสูง โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายโจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 201)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งรถยนต์โดยสารคันหมายเลขทะเบียนนม.10-0170 และหมายเลขทะเบียน นม.10-1071 พร้อมสิทธิในการเข้าวิ่งรถร่วมเส้นทางกับบริษัทขนส่ง จำกัด ให้แก่โจทก์กึ่งหนึ่งหากจำเลยไม่แบ่งให้ชำระเงินจำนวน 1,600,000 บาทแก่โจทก์ และให้จำเลยส่งมอบนาฬิกาข้อมือเรือนทองโรเล็กซ์ 1 เรือนและสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น ให้แก่โจทก์ หากไม่อาจส่งมอบได้ ให้ใช้ราคานาฬิกาเป็นเงิน 50,000 บาท และสร้อยคอทองคำเป็นเงิน 13,500 บาท
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยแบ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดเลขที่ 32084 และ 32085 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา พร้อมบ้านเลขที่ 551/19 ถนนมิตรภาพตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลคันหมายเลขทะเบียน น.ม. ก-3738 ให้แก่โจทก์กึ่งหนึ่ง หากแบ่งให้ไม่ได้ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ให้ใช้ราคาเป็นเงินจำนวน 2,600,000 บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 190,191)
จำเลยได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ โดยจำเลยได้นำนาฬิกาข้อมือยี่ห้อโรเล็กซ์ 1 เรือน และสร้อยคอทองคำ2 เส้นน้ำหนักรวม 3 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์พิพาทมาวางไว้ต่อศาลชั้นต้น(อันดับ 171,175)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่ให้แบ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน 2 แปลง อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา แต่ห้ามจำเลยทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินนั้น ให้ศาลชั้นต้นแจ้งคำสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินและพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบที่ให้แบ่งรถยนต์โดยสาร 2 คัน พร้อมสิทธิในการเข้าวิ่งรถร่วมเส้นทางกับบริษัทขนส่ง จำกัด แก่โจทก์กึ่งหนึ่งนั้น อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา แต่ห้ามจำเลยทำนิติกรรมใด ๆเกี่ยวกับการจำหน่ายรถโดยสารทั้งสองคันพร้อมทั้งสิทธิในการเข้าร่วมวิ่งรถดังกล่าว ให้ศาลชั้นต้นแจ้งคำสั่งแก่นายทะเบียนยานพาหนะและบริษัทขนส่ง จำกัด ทราบ