คำสั่งคำร้องที่ 2745/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ไม่รับฎีกาของจำเลยจำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลอุทธรณ์มิได้นำพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43,70 และมาตรา 71 มาวินิจฉัยและตัดสินไปตามรูปคดี โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 136)
คดีทั้งสองสำนวนนี้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษารวมกัน โดยเรียกโจทก์ในคดีหมายเลขดำที่ 3960/2531 ว่าโจทก์ที่ 1 เรียกโจทก์ในคดีหมายเลขดำที่ 2218/2531 หมายเลขแดงที่ 2991/2531ว่าโจทก์ที่ 2
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 43,157 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุก 4 ปี
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 132)จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 136)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 4 ปี จำเลยฎีกาว่าที่เกิดเหตุเป็นทางร่วมทางแยกรถของจำเลยเข้าไปอยู่ในทางร่วมทางแยกแล้ว ส่วนรถของผู้ตายยังไม่อยู่ในทางร่วมทางแยก ผู้ตายจะต้องหยุดรถให้รถของจำเลยซึ่งอยู่ในทางร่วมทางแยกผ่านไปก่อนตามกฎหมาย และถ้าหากเห็นว่าจำเลยกระทำความผิดจริงก็ขอให้ลงโทษแก่จำเลยสถานเบาหรือรอการลงโทษให้แก่จำเลย นั้น เป็นการโต้แย้งในการรับฟังพยานหลักฐานและโต้แย้งการใช้ดุลพินิจในการลงโทษ เป็นฎีกาโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคแรก ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share