คำสั่งคำร้องที่ 2608/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของ ผู้ร้องมิได้โต้แย้งคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ เป็นฎีกาไม่ชัดแจ้งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ไม่รับฎีกา
ผู้ร้องเห็นว่า ข้อเท็จจริงที่ผู้ร้องบรรยายไว้ในคำฟ้อง ฎีกานั้นเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นภายหลังที่ผู้ร้อง ได้ยื่นอุทธรณ์ไว้แล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคสอง ผู้ร้องจึงมีสิทธิฎีกาได้ โปรดมีคำสั่งรับฎีกาและนัดไต่สวนคำร้องเพิ่มเติมประกอบคำฟ้องฎีกาของผู้ร้องด้วย
หมายเหตุ ผู้คัดค้านได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 198 แผ่นที่ 2)
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งแต่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกเฉพาะทรัพย์มรดกตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมตามเอกสารหมาย ร.5 ส่วนทรัพย์มรดกนอกเหนือจากนี้ให้ผู้คัดค้าน เป็นผู้จัดการมรดกของนายอารีย์ ค้าสุวรรณ ต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งถอนผู้คัดค้านออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกในส่วนเกี่ยวกับทรัพย์นอกเหนือพินัยกรรม และตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายอารีย์ในส่วนที่เกี่ยวกับทรัพย์นอกเหนือพินัยกรรมแทนต่อไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนผู้คัดค้านออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของนายอารีย์ ค้าสุวรรณ ตามคำสั่งของศาลชั้นต้นเสีย ส่วนคำร้องที่ขอให้แต่งตั้งผู้ร้องเป็น ผู้จัดการมรดกแทนนั้นให้ยกเสีย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำร้องของ ผู้ร้องในส่วนที่ขอให้สั่งถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดกของนายอารีย์ ค้าสุวรรณ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น
ผู้ร้องฎีกา และยื่นคำร้องขอไต่สวนประกอบฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา และสั่งคำร้องว่า ศาลไม่รับฎีกาจึงไม่จำต้องไต่สวน ยกคำร้อง (อันดับ 190,191)
ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 194)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ผู้ร้องกล่าวอ้างมาในฎีกาว่า ขณะคดีนี้อยู่ในระหว่างอุทธรณ์บรรดาทายาทและผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของเจ้ามรดกได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความแบ่งปันทรัพย์มรดกในคดีที่มีการฟ้องร้องเกี่ยวกับการตั้งผู้จัดการมรดกอีกเรื่องหนึ่งที่ศาลชั้นต้น ซึ่งศาลชั้นต้น ได้อนุญาตให้แบ่งปันทรัพย์มรดกไปตามข้อตกลงนั้นแล้ว ข้อพิพาท ในระหว่างบรรดาทายาทเกี่ยวกับทรัพย์มรดกรายนี้จึงยุติไปแล้วศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ต่อไปขอให้ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยไม่ได้ยกข้อเท็จจริงขึ้นโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าวินิจฉัยคดีโดยไม่ถูกต้องอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ได้อ้างข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาจึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share