คำสั่งคำร้องที่ 260/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสี่ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องว่า จำเลยผู้ขออนาถามิได้สาบานตัวและไม่แจ้งเหตุขัดข้องใด ๆ จึงไม่รับคำร้องให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งสี่เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 วรรคสาม กำหนดให้ศาลต้องทำการไต่สวนและฟังคำคู่ความทุกฝ่ายก่อนที่จะมีคำสั่งแต่คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งโดยที่ยังไม่ได้ฟังคู่ความและยังไม่ได้ทำการไต่สวน จึงเป็นกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบขัดต่อกฎหมาย ขอศาลฎีกาได้โปรดมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของศาลชั้นต้น และให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาของจำเลยทั้งสี่ก่อนที่จะมีคำสั่ง
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 54 แผ่นที่ 2)
จำเลยทั้งสี่ชำระค่าขึ้นศาล 400 บาท
คดีสองสำนวนนี้ โจทก์เป็นบุคคลเดียวกัน และจำเลยในสำนวนแรกเป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยที่ 1 ในสำนวนหลัง
ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยในสำนวนแรกใช้เงิน 4,390,324.18บาทและดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีของต้นเงิน 3,315,059.90บาทนับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และให้จำเลยทั้งสี่ในสำนวนหลังร่วมกันใช้เงิน 1,806,870.68บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 21 ต่อปีของต้นเงิน 1,559,521.72บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสี่ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องดังกล่าว (อันดับ 48,47)
จำเลยทั้งสี่จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 50)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาของจำเลยทั้งสี่ จำเลยทั้งสี่มิได้สาบานตัวให้คำชี้แจงว่าจำเลยทั้งสี่เป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาลชั้นฎีกาได้จึงเป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 วรรคหนึ่งและสอง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องโดยไม่ทำการไต่สวนคำร้องดังกล่าว เป็นคำสั่งที่ชอบแล้วมิใช่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบขัดต่อกฎหมายอันจะต้องสั่งเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวแต่อย่างใด ให้ยกคำร้องคำร้องเช่นนี้ต้องเสียค่าธรรมเนียมสำนวนละ 40 บาท ตามตาราง2(3) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จำเลยทั้งสี่เสียค่าธรรมเนียมมาสำนวนละ 200 บาท รวม 400 บาท จึงเกินมา320 บาท ให้คืนส่วนที่เกินแก่จำเลยทั้งสี่

Share