คำสั่งคำร้องที่ 2541/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์มีทุนทรัพย์พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามมีคำสั่งไม่รับฎีกา คืนค่าขึ้นศาลให้โจทก์ โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสาม ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 มิได้บัญญัติห้ามไว้แต่อย่างใด โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกา ของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ จำเลยทั้งสามยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 248,333 บาท พร้อมดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 65,000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก จำเลยที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 69) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 70)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าสัญญาเช่าซื้อยังไม่เลิกกัน จำเลยที่ 1 ไม่ต้องคืนรถยนต์พิพาทและไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหายต่อโจทก์ โจทก์ฎีกาว่า ตามพยานหลักฐานของโจทก์ฟังได้ว่า โจทก์บอกเลิกสัญญาแล้วโจทก์ควรได้รับการชดใช้ค่าเสียหายจากจำเลยด้วย ฎีกาของโจทก์ เป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา ของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share