แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ที่แก้ไขใหม่ ฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าว ไม่รับฎีกาของโจทก์
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยในปัญหาที่ว่าคดีของโจทก์ ขาดอายุความหรือไม่ และจำเลยจะต้องชำระดอกเบี้ย ให้แก่โจทก์หรือไม่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 40,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 18 มกราคม 2524เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ แต่ดอกเบี้ย ถึงวันฟ้อง (23 มีนาคม 2533) ต้องไม่เกิน 30,000 บาท ตามที่ โจทก์ขอ
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 110)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 112)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ปัญหาที่ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่เห็นว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่คดีนี้จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การจึงไม่มีประเด็นดังกล่าว แม้ศาลล่างจะวินิจฉัยให้ ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อกฎหมายที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามมิให้ฎีกา
ส่วนฎีกาข้ออื่นเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกา ศาลฎีกาเห็นด้วยในผล ให้ยกคำร้อง