แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของจำเลยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่ง จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า โทษที่จำเลยได้รับเกินห้าปี จำเลยจึงสามารถฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ โปรดรับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังมิได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง,66 วรรคหนึ่ง เป็นความผิดหลายกรรม เรียงกระทงลงโทษฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 5 ปี ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 5 ปี รวมจำคุก 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 74)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 75)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเรียงกระทงลงโทษฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 5 ปี ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 5 ปี รวมจำคุก 10 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 ปี8 เดือน ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืนโดยจำคุกกระทงละไม่เกิน 5 ปี จำเลยฎีกาขอให้ลดโทษแก่จำเลยในอัตรากึ่งหนึ่ง เป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการลดโทษ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง