คำสั่งคำร้องที่ 2458/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า พิเคราะห์แล้วคดีมีทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ที่แก้ไข ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงจึงไม่รับฎีกาของจำเลย คืนค่าขึ้นศาล
จำเลยเห็นว่า การนำสืบพยานของโจทก์เป็นการเปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อความในเอกสารที่มีอยู่ ต้องห้ามมิให้ศาลรับฟัง พยานบุคคล แต่ศาลอุทธรณ์ฟังว่าเป็นการนำสืบตามความจริง ที่ระบุไว้ในสัญญา จึงเป็นการรับฟังพยานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 167621 ตำบลสะพานสูง อำเภอบางกะปิกรุงเทพมหานคร ให้แก่โจทก์ หากไม่ไปจดทะเบียนให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 51)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 54)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การนำสืบพยานของโจทก์เป็นการ นำสืบตามข้อเท็จจริงที่มีระบุไว้ในสัญญาตามเอกสารหมาย จ.3 ตอนท้าย และศาลอุทธรณ์เชื่อข้อเท็จจริงตามสัญญาส่วนนี้ การที่ จำเลยฎีกาว่า ความจริงตามสัญญาดังกล่าวมีข้อความระบุว่า การชำระค่าเช่าซื้อส่วนที่เหลือแบ่งเป็น 3 งวด ศาลควรเชื่อ ข้อเท็จจริงตรงส่วนที่ระบุนี้ ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาโต้เถียง ดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล อันเป็นข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share