แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้จำเลยฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5 ว่า การตรวจค้นของเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2519 และไม่ขออำนาจศาลยุติธรรมให้เป็นผู้ออกคำสั่งพร้อมหมายค้น เป็นการขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ขอให้ส่งสำนวนคดีนี้ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
หมายเหตุ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 6,569 เม็ด คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หนัก 150.67 กรัม ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4,7,15,66 วรรคสอง,102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง,66 วรรคสอง ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 25 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 60)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คำร้องของจำเลยโดยเนื้อหาเป็นการโต้แย้งว่า การตรวจค้นของเจ้าพนักงานเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มิใช่โต้แย้งว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะต้องรอการพิจารณาพิพากษาคดีไว้ชั่วคราวและส่งความเห็นของจำเลยดังกล่าวไปตามทางการเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 264 ให้ยกคำร้อง