แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ผู้พิพากษาไม่รับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนฎีกาที่อ้างว่าเป็นข้อกฎหมายก็เป็นเรื่องโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง มิใช่ข้อกฎหมาย ดังนั้นจึงไม่รับฎีกา โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ในเรื่องข้อหาบุกรุกเป็นปัญหาข้อกฎหมาย และฎีกาของโจทก์มีทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงซึ่งไม่อาจแยกประเด็นออกพิจารณาได้ โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาในข้อกฎหมายของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ จำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 150) โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสอง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362,363,365 และ 83 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 144) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 147)
คำสั่ง คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้องโจทก์โจทก์จึงฎีกาไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ให้ยกคำร้อง