แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสี่ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยทั้งสี่เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกา
จำเลยทั้งสี่เห็นว่า จำเลยทั้งสี่ได้ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าที่ดินที่จำเลยขุดนั้นเป็นทางสาธารณะหรือไม่ การกระทำของจำเลยอยู่ในลักษณะอันน่าจะก่อให้เกิดอันตรายแก่การจราจรหรือไม่ จำเลยทั้งสี่มีเจตนากระทำความผิดหรือไม่ จำเลยทั้งสี่กระทำความผิดสองกรรมหรือไม่ และโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสี่ไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 100)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 229 การกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นความผิดสองกรรมศาลเรียงกระทงลงโทษให้จำคุกจำเลยทั้งสี่ไว้กระทงละ 3 เดือน ปรับกระทงละ 1,500 บาท รวมจำคุกจำเลยทั้งสี่คนละ 6 เดือน ปรับคนละ 3,000 บาท คำให้การของจำเลยทั้งสี่ในชั้นพิจารณาให้ความรู้แก่ศาล ลดโทษให้จำเลยทั้งสี่คนละหนึ่งในสาม คงให้จำคุกจำเลยทั้งสี่ไว้คนละ 4 เดือน ปรับคนละ2,000 บาท โทษจำคุกจำเลยทั้งสี่ ให้รอการลงอาญาไว้คนละ 1 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสี่ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 95)
จำเลยทั้งสี่จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 99)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งสี่ที่อ้างว่า ที่ดินที่จำเลยขุดมิใช่ทางสาธารณะการกระทำของจำเลยไม่อยู่ในลักษณะอันน่าจะก่อให้เกิดอันตรายแก่การจราจร และจำเลยไม่มีเจตนาจะกระทำความผิดล้วนแต่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ฎีกาข้อต่อไปที่อ้างว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว แม้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแต่ก็เป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ประกอบด้วยมาตรา 249 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ฎีกาข้อสุดท้ายที่ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โดยยกเหตุว่านายพรศักดิ์รัชศรีพลปลัดอาวุโส อำเภอที่เกิดเหตุไม่มีอำนาจลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจให้นายสมชาย สกุลเกียรติวงศ์ ปลัดอำเภอ ไปร้องทุกข์ตามเอกสารหมาย จ.1 เพราะขณะที่ทำหนังสือดังกล่าวนายอำเภอยังปฏิบัติราชการอยู่ และมิได้มีคำสั่งให้นายพรศักดิ์รักษาราชการแทน จึงฟังไม่ได้ว่านายสมชาย มีอำนาจร้องทุกข์แทนนายอำเภอก็เป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงขึ้นใหม่เพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเช่นเดียวกัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสี่ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง