แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลในข้อที่ว่า แก้วหูซ้ายของผู้เสียหายทะลุหรือไม่ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงเพื่อ นำไปสู่การวินิจฉัยในปัญหาข้อกฎหมาย เป็นฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก จึงไม่รับฎีกาของจำเลย
จำเลยเห็นว่า ในทางพิจารณาข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าบาดแผลที่ปรากฏแก่ผู้เสียหายที่เกิดจากการกระทำของจำเลยเป็นเพียงรอยบวมฟกช้ำเท่านั้น ซึ่งบาดแผลดังกล่าวจะถือว่าเป็นการทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ของผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 หาได้ไม่ จำเลยฎีกา ในปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวโดยมิได้โต้แย้งว่าแก้วหูซ้ายของ ผู้เสียหายทะลุหรือไม่แต่อย่างใด โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกา ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 82)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 294 ลงโทษจำคุก 2 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 77)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 80)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 2 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน การที่จำเลยฎีกาว่าผู้เสียหายมีบาดแผลเพียงรอยบวมฟกช้ำนั้นเป็นการโต้แย้งเกี่ยวกับการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ที่ฟังว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายจนแก้วหูซ้ายทะลุ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคหนึ่ง ให้ยกคำร้อง