แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองให้รับผิดชำระหนี้ตามเช็คที่ได้ร่วมกันออกเพื่อชำระหนี้เงินกู้แก่โจทก์ โดยจำเลยที่ 1เป็นผู้เขียนข้อความในเช็คพิพาททั้งหมดและเขียนระบุชื่อโจทก์ไว้ในช่องจ่ายหรือผู้ถือไว้แจ้งชัด นอกจากนี้แล้วจำเลยที่ 2ได้ให้การหรือเบิกความตอบทนายโจทก์และทนายจำเลยที่ 2 ว่าข้อความในเช็คพิพาททั้งหมดจำเลยที่ 1 เป็นผู้เขียนและลงลายมือชื่อในช่องผู้สั่งจ่าย ส่วนลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาททั้งหมดนั้นเป็นลายมือชื่อของจำเลยที่ 2 โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย และเช็คพิพาทก็มีความสมบูรณ์และบังคับได้ตามกฎหมายดังนั้นเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการพิจารณาคดีของศาลฎีกาจึงขอให้พิจารณาคดีนี้โดยรวบรัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 196 และเป็นการด่วนด้วย เพราะโจทก์ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายมานาน 6-7 ปีแล้ว โปรดเมตตากรุณาช่วยโจทก์ด้วย
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินต้นตามเช็คพิพาทจำนวน 421,000 บาท ให้แก่โจทก์ พร้อมด้วยอัตราดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในต้นเงินตามเช็คแต่ละฉบับนับตั้งแต่วันที่ธนาคารตามเช็คแต่ละฉบับปฏิเสธการจ่ายเงินจนกว่าจะชำระเงินให้โจทก์เสร็จสิ้น
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์จำเลย จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีไว้ก่อน ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง จำเลยทั้งสองจึงอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว หนี้ตามเช็คที่ฟ้องคดีทั้ง 5 ฉบับระงับสิ้นไปแล้วด้วยการที่จำเลยที่ 2 ออกเช็คชำระแทน โจทก์ไม่มีสิทธินำเช็คทั้ง 5 ฉบับดังกล่าวมาฟ้องเป็นคดีนี้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้ตามเช็คทั้ง 5 ฉบับ พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย และอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองที่ว่ามีเหตุงดการบังคับคดีไว้หรือไม่ก็ดี ไม่จำต้องวินิจฉัย
พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา (อันดับ 223)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 238)
คำสั่ง
คำร้องของโจทก์พอแปลได้ว่า โจทก์ขอให้เร่งรัดการพิจารณาพิเคราะห์แล้ว ศาลฎีกาจะได้ดำเนินการไปตามลำดับเลขหมายสำนวนในสารบบความศาลฎีกาต่อไป
