แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องฎีกา มีทางชนะคดี หากในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกามีการโอนกรรมสิทธิ์กันแล้ว เมื่อผู้ร้อง ชนะคดี จะได้รับความเสียหาย โปรดมีคำสั่งให้งดการโอนกรรมสิทธิ์ หรือการทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินพิพาทไว้จนกว่า คดีจะถึงที่สุด
หมายเหตุ โจทก์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และผู้ซื้อทรัพย์ ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 88 แผ่นที่ 2,84,87)
คดีสืบเนื่องจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 46981 และ 68990 ตำบลในคลองปลากดอำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยไว้ และได้ทำการขายทอดตลาดที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว โดยมีบริษัทเซียร์ร่าคอมเพล็ก จำกัดเป็นผู้ซื้อทรัพย์ได้ ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำร้องของผู้ร้องว่าผู้ร้องคัดค้านมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 ประกอบกับมาตรา 280 จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้อง ให้ยกคำร้องเสีย ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน และได้ส่งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปให้ศาลชั้นต้นอ่านให้คู่ความฟัง ได้มีการแจ้งทนายผู้ร้องให้มาฟังคำพิพากษาโดยวิธีปิดหมาย ครั้นถึงวันนัดฟังคำพิพากษา เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มาศาล ส่วนโจทก์และผู้ร้องไม่มา ศาลชั้นต้นจึงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฟัง และให้ถือว่าได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์และผู้ร้องฟังแล้ว
ผู้ร้องยื่นคำร้อง (ฉบับลงวันที่ 26 ธันวาคม 2534)ว่าทนายผู้ร้องได้ย้ายภูมิลำเนาไปก่อนที่จะมีการปิดหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ทนายผู้ร้องจึงยังไม่ทราบวันนัดฟังคำพิพากษา ถือไม่ได้ว่ามีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามกฎหมาย ขอให้ยกเลิกกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่ากระบวนพิจารณาของศาลที่อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีนี้ได้ดำเนินไปโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงให้ยกคำร้องของ ผู้ร้อง ฉบับลงวันที่ 26 ธันวาคม 2534
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น
ผู้ร้องฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 80แผ่นที่ 1, ที่ 8)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีไม่มีเหตุสมควรที่จะให้งดการโอนกรรมสิทธิ์หรือการทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินพิพาทไว้ในระหว่างฎีกาให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ