คำสั่งคำร้องที่ 2251/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอดำเนินคดีใน ชั้นฎีกาอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่าจำเลย มิใช่คนยากจนจริง จึงให้ยกคำร้อง หากจำเลยจะดำเนินคดีต่อไป ให้นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาวางภายในกำหนด 10 วัน นับแต่วันนี้ จำเลยเห็นว่าจำเลยไม่สามารถนำที่พิพาทไปจำหน่ายจ่ายโอน หรือนำไปเป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินได้ เนื่องจากที่พิพาท เป็นที่ดินที่มีการฟ้องร้องกันอยู่ จำเลยประกอบอาชีพทำนาและ ยังต้องกู้ยืมเงินธนาคารเพื่อมาใช้เป็นทุนหมุนเวียน จำเลย จึงมีฐานะยากจนจริงไม่สามารถหาเงินมาชำระค่าธรรมเนียมศาล ในชั้นฎีกาได้ ประกอบกับจำเลยมีทางชนะคดี โปรดมีคำสั่ง อนุญาตให้จำเลยดำเนินคดีในชั้นฎีกาอย่างคนอนาถาด้วย หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 107) ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับเป็นว่า ให้จำเลยแบ่งที่ดิน พิพาทตามหนังสือแจ้งการครอบครองเลขที่ 2 หมู่ที่ 18 ตำบล บางไทรป่า อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ในส่วนที่จำเลยครอบครองอยู่ตามแนวเส้นสีเขียวในเอกสารหมาย ล.1 ให้โจทก์กึ่งหนึ่ง หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดง เจตนา หากไม่สามารถตกลงแบ่งกันได้ให้นำที่ดินพิพาทส่วนของโจทก์ จำเลยออกขายทอดตลาดแล้วนำเงินแบ่งแก่โจทก์และจำเลยตามส่วน จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 97 แผ่นที่ 3, ที่ 2,104 แผ่นที่ 2) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 106)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ตามทางไต่สวนข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนถึงกับไม่มีทรัพย์สินพอจะเสีย ค่าธรรมเนียมชั้นฎีกา ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกาอย่างคนอนาถานั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยหากจำเลยยังติดใจฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ก็ให้จำเลยนำเงิน ค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 30 วัน นับแต่ วันทราบคำสั่งนี้

Share