คำสั่งคำร้องที่ 2251/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ทั้งสามฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 12)พ.ศ. 2534 ว่าด้วยเรื่องอุทธรณ์ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 28ตุลาคม 2534 ฎีกาของโจทก์ทั้งสามไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย จึงไม่รับฎีกา
โจทก์ทั้งสามเห็นว่า พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2534หาได้ใช้บังคับในวันที่ 28 ตุลาคม 2534 ไม่ แต่ได้ใช้บังคับเมื่อครบกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2534วันใช้บังคับพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงเป็นวันหลังจากที่โจทก์ทั้งสามได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสามจึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ตามกฎหมาย เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 1ไม่รับวินิจฉัยจึงเป็นการไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสาม ดังนั้นฎีกาของโจทก์ทั้งสามที่ขอให้ศาลฎีกายกคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 แล้วให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาพิพากษาใหม่จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายที่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกา โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ทั้งสามไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 63 แผ่นที่ 2-3)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยแบ่งที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ทั้งสามคนละ 1 ใน 6 ส่วนของที่ดินพิพาททั้งหมดถ้าไม่อาจตกลงแบ่งกันได้ ให้ประมูลราคาระหว่างกันเองและถ้าไม่อาจประมูลได้ให้ยึดที่ดินพิพาทออกขายทอดตลาดและเอาเงินแบ่งกันตามส่วน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์ทั้งสาม
โจทก์ทั้งสามฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 60)
ทนายโจทก์ทั้งสามจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 62)

คำสั่ง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2534 ที่เกี่ยวกับมาตรา 224 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2534 โจทก์ทั้งสามยื่นอุทธรณ์วันที่22 มกราคม 2535 โดยแต่ละคนมีทุนทรัพย์ตามที่เรียกร้องในชั้นอุทธรณ์ไม่เกิน 50,000 บาท จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสามจึงมิใช่อุทธรณ์ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จะรับวินิจฉัยให้ได้ ที่โจทก์ทั้งสามฎีกาโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 และศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์ทั้งสามนั้นชอบแล้ว ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ

Share