แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ 1 เดือน โดยให้เปลี่ยนโทษกักขังแทน การที่ จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกาให้รอการลงโทษเป็นการโต้แย้ง ดุลพินิจในการลงโทษเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จึงไม่รับฎีกา จำเลยที่ 1 และที่ 2 เห็นว่า พฤติการณ์แห่งคดีนี้เป็นปัญหาสำคัญอันควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลสูง โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295,83 จำคุกคนละ 2 เดือนจำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 1 เดือน พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดี เห็นควรให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา(อันดับ 40) จำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 54)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นลงโทษกักขังแทนโทษจำคุก และศาลอุทธรณ์ภาค 1 มิได้พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ตรีจำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาขอให้รอการลงโทษ เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าวศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง