แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้คัดค้านที่ 2 อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งว่า กรณีเป็นการอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226จึงไม่รับอุทธรณ์ของผู้คัดค้านที่ 2
ผู้คัดค้านที่ 2 เห็นว่า ในประเด็นที่ผู้คัดค้านที่ 2 อุทธรณ์นั้นได้อุทธรณ์ในปัญหาว่า ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัย ในปัญหาข้อกฎหมายว่าคำร้องของ ผู้คัดค้านเคลือบคลุมหรือไม่ เพียงใด แต่ผู้คัดค้านที่ 2ได้อุทธรณ์ในสาระสำคัญว่า ที่ ศาลชั้นต้นไม่ส่งคำร้องของ ผู้คัดค้านที่ 2 ให้ศาลฎีกาวินิจฉัย นั้น เป็นการส่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในกรณีเช่นนี้จึงเป็น การอุทธรณ์คำสั่งซึ่งมิใช่คำสั่งระหว่างพิจารณา ไม่อยู่ใน บังคับต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของผู้คัดค้านที่ 2 ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ผู้ร้องทั้งสองยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
คดีนี้สืบเนื่องมาจากผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคามเขตเลือกตั้งที่ 1 ขอให้ศาลมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ใหม่
ผู้คัดค้านที่ 2 ยื่นคำร้องคัดค้านและได้ยื่นคำร้อง ขอให้วินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า รอไว้รวมส่งศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยหลังจากเสร็จการพิจารณาคำร้องแล้ว
ผู้คัดค้านที่ 2 อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับที่ 4)
ผู้คัดค้านที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับที่ 5)
คำสั่ง
คดีที่ฟ้องหรือร้องขอต่อศาลให้เพิกถอนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น ศาลชั้นต้นมีหน้าที่เพียงดำเนินการพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานเท่านั้นเพื่อส่งให้ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาด กรณีนี้ปรากฎว่าผู้คัดค้านที่ 2 ได้ยื่น คำร้องขอให้วินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลชั้นต้นจะต้องรีบส่งคำร้องดังกล่าวไปให้ศาลฎีกาพิจารณา โดยเร็ว ไม่มีอำนาจใช้ดุลพินิจสั่งคำร้องดังกล่าว การที่ ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องว่าให้รอไว้รวมส่งศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย หลังจากเสร็จการพิจารณาแล้วจึงเป็นการไม่ชอบ
ศาลฎีกาพิเคราะห์คำร้องขอให้ชี้ขาดเบื้องต้น ในปัญหาข้อกฎหมายของผู้คัดค้านที่ 2 แล้วเห็นสมควรให้รอไว้วินิจฉัยในคำพิพากษา