แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกาและยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาว่า กรณีต้องทำเป็น คำร้องและเสียค่าคำร้อง เมื่อมิได้เสียค่าคำร้องจึงให้ยกคำร้อง และสั่งฎีกาว่า ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา ของจำเลย ดังนั้นจำเลยต้องยื่นฎีกาภายในกำหนด ซึ่งครบกำหนด ยื่นฎีกาวันที่ 20 พฤษภาคม 2537 แต่จำเลยยื่นฎีกาผ่านเรือนจำ มาถึงศาลวันที่ 27 พฤษภาคม 2537 จึงพ้นกำหนดเวลายื่นฎีกาแล้ว อีกทั้งจำเลยมิได้เสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาและจำเลยยื่นคำร้อง ขอฎีกาอย่างคนอนาถาศาลสั่งยกคำร้อง จึงไม่รับฎีกาจำเลย แจ้งคำสั่งให้จำเลยทราบ
จำเลยเห็นว่า เนื่องจากจำเลยถูกขังอยู่ในเรือนจำไม่ได้รับทราบคำสั่งให้ยกคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกา จึงได้ยื่นฎีกาผ่านเรือนจำในวันที่ 19 พฤษภาคม 2537 หากจำเลยรับทราบคำสั่งก็ย่อมจะยื่นฎีกาโดยไม่ชักช้า โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาอย่างคนอนาถาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำสั่งแล้ว (อันดับ 116,117)คดีชั้นขอพิจารณาคดีใหม่
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินจำนวน 5,920,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีแก่โจทก์ จำเลยยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ว่ามิได้จงใจขาดนัดพิจารณา เพราะถูกขังอยู่ในเรือนจำและทนายความนำใบแต่งทนายที่มี ลายมือชื่อจำเลยซึ่งยังไม่กรอกข้อความไปดำเนินการโดยพลการ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา และยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกา ศาลชั้นต้น มีคำสั่งให้ยกคำร้องและมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 101,100 แผ่นที่ 3)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 109)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังวันที่ 20 เมษายน 2537 ต่อมาวันที่26 เมษายน 2537 จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต ต่อมาวันที่ 23 พฤษภาคม 2537จำเลยยื่นฎีกาโดยยื่นต่อทัณฑสถานหญิงที่จำเลยถูกควบคุมตัวอยู่และทัณฑสถานหญิงส่งมาศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม2537 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาเพราะถือว่ายื่นเกินกำหนด1 เดือน ต่อมาวันที่ 13 มิถุนายน 2537 จำเลยยื่นคำร้องขอให้จำเลยได้ฎีกาอย่างคนอนาถาด้วย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องเพราะศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยแล้ว ดังนี้ที่จำเลยอ้าง ในอุทธรณ์คำสั่งว่าจำเลยไม่ทราบคำสั่ง ศาลชั้นต้นที่ยกคำร้อง ขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา เพราะจำเลยถูกควบคุมตัวอยู่ใน ทัณฑสถานหญิงถ้าจำเลยทราบว่าศาลยกคำร้องแล้ว จำเลยก็จะยื่นฎีกา ภายในกำหนดนั้นฟังไม่ขึ้นเพราะเมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอขยาย ระยะเวลายื่นฎีกาต่อศาลแล้วย่อมเป็นหน้าที่ของจำเลยที่ต้อง ขวนขวายติดตามรับทราบคำสั่งของศาล จำเลยจะอ้างว่าจำเลย ถูกควบคุมตัวอยู่ จำเลยจึงไม่อาจทราบคำสั่งศาลชั้นต้นนั้น ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยและ ยกคำร้องขอยื่นฎีกาอย่างคนอนาถาของจำเลยนั้น จึงชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 แล้ว จึงให้ ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ