คำสั่งคำร้องที่ 219/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้เป็นคดีที่ โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากอสังหาริมทรัพย์ ที่พิพาทในขณะยื่นฟ้องอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละ 10,000 บาทจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาของจำเลยล้วนเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยในข้อ 2.1 ในเรื่องที่ว่าหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ที่ไม่ได้ระบุอายุของผู้รับมอบอำนาจไว้ จะดำเนินคดีแทนโจทก์ได้ตามกฎหมายหรือไม่ และฎีกา ในข้อ 2.2 ที่ว่า จำเลยครอบครองที่พิพาทเกินกว่า 10 ปีแล้ว จึงได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายทั้งสิ้น โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่พิพาทในที่ดินโฉนดเลขที่ 3344 ตำบลวิชิต(ระเงง) อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต กับรื้อถอนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินพิพาทดังกล่าว ห้ามเกี่ยวข้องต่อไป
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 110,118)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 119)

คำสั่ง
ฎีกาจำเลยที่ว่า หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ที่ไม่ได้ระบุอายุของผู้รับมอบอำนาจไว้ จะดำเนินคดีแทนโจทก์ ได้หรือไม่นั้น จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยให้ ก็เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบ ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 3 ฎีกาจำเลยข้อนี้จึงไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรก ส่วนฎีกาที่ว่า จำเลยครอบครองที่พิพาทเกินกว่า 10 ปีแล้ว จึงได้กรรมสิทธิ์ตามกฎหมายนั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ไม่รับวินิจฉัย เนื่องจากเป็นเรื่องที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น ฎีกาจำเลยข้อนี้จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรก เช่นเดียวกัน ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผลที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาจำเลย ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share