แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ร่วม เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 จึงไม่รับฎีกา
โจทก์ร่วมเห็นว่า ฎีกาของโจทก์ร่วมเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงผิดไปจากพยานหลักฐานในสำนวน โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ร่วมด้วย
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 146 แผ่นที่ 4)
คดีทั้งสองสำนวนนี้ โจทก์จำเลยเป็นคู่ความรายเดียวกันโจทก์ฟ้องจำเลยทำนองเดียวกันขอให้ลงโทษจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,91,341 ฯลฯ ต่อมาศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รวมพิจารณาคดีทั้งสองสำนวนเข้าด้วยกัน
ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา (อันดับ 141)
โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 140)
โจทก์ร่วมจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 144)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ที่แก้ไขแล้ว ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในคดี ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ เห็นได้ว่าเป็นการห้ามฎีกาทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ร่วมชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง