แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลย เป็น ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ข้อกฎหมาย จึงเป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา ไม่รับฎีกา คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายเรื่องอายุความฟ้องร้องคดีตามกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่พิพาทของโจทก์ และให้จำเลยชำระค่าเสียหายให้โจทก์ เดือนละ 100 บาท นับแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2535(วันฟ้อง)เป็นต้นไปจนกว่าจะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินของโจทก์ เสร็จ คำขออื่นให้ยก
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 74)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 82)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ข้ออ้างเป็นปัญหาข้อกฎหมายของจำเลย ย่อมต้องอาศัยข้อเท็จจริงเพื่อการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายการเถียงข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่ยุติและต้องห้ามฎีกาเพื่อสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลย จึงมีผลอย่างเดียวกับการ ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาจำเลย นั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง