แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า รับฎีกาข้อ 2(ก)และ(ค)ส่วนข้อ 2(ข) เป็นฎีกาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ไม่รับจำเลยเห็นว่าฎีกาของจำเลยข้อ 2(ข) เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ ซึ่งเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาข้อ 2(ข)ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยใช้เงินจำนวน 14,426.43 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในต้นเงิน 13,000 บาทนับถัดจากวันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาบางข้อดังกล่าว(อันดับ 136)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 137)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ตามฎีกาข้อ 2 ข. ของจำเลยที่ว่า คดีนี้โจทก์ทราบเหตุก่อนวันที่ 20 เมษายน 2527 และศาลควรหยิบยกเอาเอกสารหมาย จ.9 มาพิจารณาประกอบแล้ว คดีโจทก์ย่อมขาดอายุความนั้นเห็นว่าเป็นการฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาจำเลยข้อนี้ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ