แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา เนื่องจากจำเลยที่ 2 มีความจำเป็นจะต้องนำที่ดินที่จำเลยที่ 2 นำมาวางเป็นหลักประกันต่อศาล ไปยกให้แก่บุตร จำเลยที่ 2 จึงประสงค์ที่จะขอเปลี่ยนหลักทรัพย์ ที่นำมาวางเป็นหลักประกัน โดยจำเลยที่ 2 ขอนำสมุดเงินฝาก ของธนาคารทหารไทย มีจำนวนเงิน 40,000 บาท มาวางเป็นหลักประกันแทนหลักประกันเดิม โปรดอนุญาต หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง ระหว่างพิจารณา จำเลยที่ 7 ถึงแก่กรรม นางสาวบุษบาบำรุงกลาง ทายาทโดยธรรมและผู้จัดการมรดกของจำเลยที่ 7ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยที่ 7 ผู้มรณะศาลชั้นต้นอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งเจ็ดร่วมกันชำระเงินจำนวน 150,000 บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จากต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งเจ็ด จะชำระหนี้ให้โจทก์เสร็จ หากโจทก์ได้รับชำระหนี้ตามคำร้องขอ รับชำระหนี้ในคดีล้มละลายของนางหวย บำรุงกลาง จำนวนเท่าใดให้นำมาหักออกจากจำนวนหนี้ในคดีนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 7 ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 268,800 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง (วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2531) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 6นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกา (อันดับ 322) คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 359) ชั้นอุทธรณ์ จำเลยที่ 2 ได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับโดยจำเลยที่ 2 ได้นำที่ดินโฉนดเลขที่ 60726 ตำบลหัวทะเลอำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา มาวางเป็นหลักประกันในการขอทุเลาการบังคับต่อศาลชั้นต้น(อันดับ 293,299)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 แล้ว จำเลยที่ 2 จึงไม่จำต้องนำหลักประกันมาวางอีก แต่การสั่งในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นจะสั่ง จึงให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและดำเนินการต่อไป