คำสั่งคำร้องที่ 2020/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า เห็นว่าเป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218,219 จึงไม่รับฎีกาของจำเลย จำเลยเห็นว่า ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยโดยอาศัยพยานหลักฐานที่รับฟังไม่ได้ นอกจากนี้ที่ศาลนำแผนที่ ทางอากาศซึ่งเป็นเอกสารราชการมาวินิจฉัยผิดจากพยานหลักฐาน ที่เป็นจริง เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกา ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 125) ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9,108 ทวิ วรรคสอง ที่แก้ไขแล้วจำคุก 8 เดือน ปรับ 3,500 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ในชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสี่ คงจำคุก 6 เดือน ปรับ 2,625 บาท ไม่ปรากฏว่า จำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกจึงให้รอไว้ มีกำหนด 2 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29,30 และให้จำเลย คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารออกไปจากที่ดินของรัฐดังกล่าวด้วย ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 124) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 125)

คำสั่ง คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 6 เดือน ปรับ 2,625 บาทรอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ฎีกาของจำเลยที่ว่าไม่ควรรับฟังพยานโจทก์ทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสารคือ แผนที่ทางอากาศที่แสดงถึงที่ตั้งของทำเลเลี้ยงสัตว์ซึ่งเป็นเอกสารที่ไม่แท้จริงนั้น เป็นฎีกาโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่งศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share