คำสั่งคำร้องที่ 2017/2539

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ฎีกาที่จำเลยที่ว่าผู้เสียหายแถลงต่อหน้าศาลว่าไม่ติดใจเอาความกับจำเลยกับยืนยันว่าเสียหายกับจำเลยเป็นคู่รักกันเป็นการบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดทางหนึ่งแต่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยไม่พยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดนั้นจึงเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงผิดไปจากพยานหลักฐานในสำนวนเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย

ย่อยาว

ความ ว่า จำเลย ฎีกา ศาลชั้นต้น สั่ง ว่า เป็น ฎีกา ใน ปัญหา ข้อเท็จจริง ต้องห้าม ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ตรี และ ไม่อาจ อนุญาต ให้ ฎีกา ตาม มาตรา 221 ได้ จึง ไม่รับ ฎีกา จำเลย
จำเลย เห็นว่า ฎีกา ของ จำเลย ใน ประเด็น ที่ ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัย ว่า ไม่ปรากฏ ว่า ผู้เสียหาย มี ส่วน ก่อ ให้ เกิด การ กระทำ ความผิด ขึ้น ทั้ง จำเลย มิได้ บรรเทา ผล ร้าย แต่ ประการใด นั้น จำเลย ฎีกา ว่าการ แถลง ของ ผู้เสียหาย ต่อหน้า ศาล ว่า ไม่ติดใจ เอาความ กับ จำเลย แต่อย่างใด กับ ยืนยัน ว่า ผู้เสียหาย กับ จำเลย เป็น คู่รัก กัน เป็น การ บรรเทา ผล ร้าย ทาง หนึ่ง แล้ว การ ที่ ศาลอุทธรณ์ มิได้ หยิบยก ประเด็น นี้ ขึ้น วินิจฉัย จึง เป็น การ วินิจฉัย ผิด จาก พยานหลักฐาน ใน สำนวน เป็น ฎีกา ใน ปัญหาข้อกฎหมาย โปรด มี คำสั่ง ให้ รับ ฎีกา ของ จำเลย ใน ข้อ นี้ ไว้ พิจารณา ต่อไป ด้วย
หมายเหตุ โจทก์ ได้รับ สำเนา คำร้อง แล้ว ( อันดับ 66)
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(8) ข้อเท็จจริง ได้ความ ว่า จำเลย เป็น นักศึกษา กำลัง ศึกษา อยู่ ใน ระดับ บัณฑิต วิทยาลัย ( ปริญญาโท ) คณะ วิทยา ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใน ชั้น ปี ที่ 3 มีเหตุ สมควร ลงโทษ สถาน เบา ให้ จำคุก 6 เดือน จำเลย ให้การรับสารภาพ ลดโทษ กึ่งหนึ่ง คง จำคุก 3 เดือน เมื่อ พิจารณา สาเหตุ แห่ง การกระทำ ความผิด และ พฤติการณ์ ใน การกระทำ ความผิด ตลอดจน การ บรรเทา ผล ร้าย ของ จำเลย แล้ว ยัง ไม่เห็น สมควร ให้ รอการลงโทษ แต่ ไม่ปรากฏ ว่า จำเลย ได้รับ โทษ จำคุก มา ก่อน เพื่อ ให้ โอกาส จำเลย กลับ ตน เป็น พลเมือง ดี เป็น กำลัง สำคัญ ของ ประเทศชาติ ต่อไป ใน อนาคต จึง เห็น สมควร ให้ เปลี่ยน โทษ จำคุก เป็น กักขัง แทน มี กำหนด 3 เดือน
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ไม่รับ ฎีกา ดังกล่าว ( อันดับ 65)
จำเลย จึง ยื่น คำร้อง นี้ ( อันดับ 66)

คำสั่ง
พิเคราะห์ แล้ว ที่ จำเลย ฎีกา ว่า ผู้เสียหาย แถลง ต่อหน้า ศาล ว่า ไม่ติดใจ เอาความ กับ จำเลย แต่อย่างใด กับ ยืนยัน ว่า ผู้เสียหาย กับ จำเลย เป็น คู่รัก กัน เป็น การ บรรเทา ผล ร้าย แห่ง ความผิด ทาง หนึ่ง แต่ ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัย ว่า จำเลย ไม่ พยายาม บรรเทา ผล ร้าย แห่ง ความผิด นั้น จึง เป็น การ วินิจฉัย ข้อเท็จจริง ผิด ไป จาก พยานหลักฐาน ใน สำนวน เป็น ฎีกา ใน ปัญหาข้อกฎหมาย ให้ รับ ฎีกา ของ จำเลย ไว้ พิจารณา ให้ ศาลชั้นต้น ดำเนินการ ต่อไป

Share