คำสั่งคำร้องที่ 2014/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นสั่งว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์เป็นคำสั่งเกี่ยวกับการขอทุเลาการบังคับชั้นอุทธรณ์ อำนาจในการสั่งเป็นอำนาจเฉพาะศาลเมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งในเรื่องนี้อย่างไรแล้ว คู่ความไม่มีสิทธิยื่นฎีกาคัดค้านคำสั่งนั้น ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาต้องห้ามตามกฎหมาย จึงไม่รับฎีกา
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองเป็นอุทธรณ์คำสั่งเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยทั้งสองในระหว่างอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งประการใด จำเลยทั้งสองจึงฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228(2),(3) โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 29)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 260,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละสิบห้าต่อปีในจำนวนเงินดังกล่าวนี้ให้แก่โจทก์นับตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2529 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์ และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ
ศาลอุทธรณ์สั่งคำร้องว่า ถ้าจำเลยทั้งสองคนใดคนหนึ่งหรือร่วมกันหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นรวมทั้งดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 ปี มาวางให้เป็นที่พอใจของศาลชั้นต้นและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง (อันดับ 7)
วันนัดพิจารณาหลักประกัน ทนายจำเลยทั้งสองแถลงขอนำที่ดินตามโฉนดเลขที่ 1604 ตำบลคลองเขิน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งโฉนดอยู่ที่โจทก์ ขอให้โจทก์นำมาวางเป็นประกันโจทก์แถลงคัดค้านว่า โจทก์ยึดถือโฉนดดังกล่าวไว้ประกันหนี้เงินกู้ให้จำเลยหาหลักประกันอื่นมาวาง ศาลชั้นต้นสั่งว่า ถือได้ว่าจำเลยไม่มีหลักประกันมาวาง ถือว่าคำร้องขอทุเลาการบังคับของจำเลยทั้งสองเป็นอันยกไปตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์ (อันดับ 9)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง (อันดับ 10)
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยทั้งสองขอให้
ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำโฉนดที่ดินเลขที่ 1604 ตำบลคลองเขินอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม มาวางศาลเพื่อเป็นหลักประกันศาลชั้นต้นถือว่าจำเลยทั้งสองไม่มีหลักประกันมาวางเท่ากับศาลชั้นต้นไม่พอใจในหลักประกันที่จำเลยทั้งสองอ้าง เป็นการใช้อำนาจตามที่ศาลอุทธรณ์ให้ไว้ในคำสั่งเรื่องทุเลาการบังคับ ซึ่งศาลชั้นต้นมีอำนาจสั่งได้ คำสั่งศาลชั้นต้นชอบแล้ว ยกคำร้อง (อันดับ 19)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 21)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 26)
ไม่ปรากฏใบแต่งทนายจำเลยทั้งสองในสำนวนที่ส่งมาศาลฎีกา

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยทั้งสองขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างอุทธรณ์แต่ไม่วางหลักประกันตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด จึงไม่ได้รับการทุเลาการบังคับคดี ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งลงวันที่ 30 สิงหาคม 2532 ยกคำร้องที่จำเลยทั้งสองขอวางหลักประกันอีก จึงเป็นคำสั่งในเรื่องขอทุเลาการบังคับคดีแต่เดิม ซึ่งเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะ จำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิยื่นฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์ดังกล่าว ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้องฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share