คำสั่งคำร้องที่ 1958/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินสองแสนบาท ทั้งฎีกาของจำเลยที่ 2 เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกา จำเลยที่ 2 เห็นว่า ฎีกาจำเลยที่ 2 เป็นปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนจำนองที่ดินพิพาท โฉนดเลขที่ 9286 ตำบลทุ่งคอก อำเภอสองพี่น้องจังหวัดสุพรรณบุรี ระหว่างจำเลยทั้งสอง และให้จำเลยที่ 1ไปดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทให้โจทก์หากจำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตามก็ให้ถือเอาคำพิพากษา แทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสอง ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 126) จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 128)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2รับจำนองที่พิพาทไว้โดยรู้ถึงข้อความจริงอันเป็นทางให้โจทก์ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ โจทก์จึงขอให้เพิกถอนได้จำเลยที่ 2 ฎีกาว่ารับจำนองโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนโดยไม่รู้ว่าจะเป็นทางให้โจทก์เสียเปรียบ เป็นฎีกาโต้แย้ง ดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ภาค 3จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรกศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ชอบแล้ว ส่วนที่จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาว่าที่พิพาทมีมูลค่าสูงกว่าทุนทรัพย์ที่โจทก์ยื่นฟ้อง เป็นการหลบเลี่ยงค่าธรรมเนียมศาลทำให้จำเลยที่ 2 เสียสิทธิในการที่จะฎีกาในข้อเท็จจริงนั้นเห็นว่าหากจำเลยที่ 2 เห็นว่าทุนทรัพย์ที่โจทก์ตั้งมา ในฟ้องไม่ถูกต้อง จำเลยที่ 2 ก็ชอบที่จะโต้แย้งในระหว่างการ พิจารณาของศาลชั้นต้นได้ เมื่อจำเลยที่ 2 ไม่โต้แย้ง ปล่อยให้ล่วงเลยมาจนถึงชั้นฎีกาแล้ว จำเลยที่ 2 จะยกขึ้นอ้างไม่ได้ ให้ยกคำร้อง

Share