แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ตามที่ศาลฎีกามีคำสั่งว่า จำเลยเพิกเฉยไม่ส่งสำเนา คำร้องขอทุเลาการบังคับตามคำสั่ง ศาลชั้นต้น เป็นการทิ้งคำร้อง และให้จำหน่ายคำร้องของ จำเลยนั้น จำเลยขอประทานกราบเรียนว่า จำเลยได้รับหมายแจ้งคำสั่ง ศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2536 ให้ส่งสำเนาคำร้องขอทุเลาการบังคับให้โจทก์ภายใน 7 วัน ต่อมา เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2537 จำเลยได้ดำเนินการส่งสำเนาคำร้อง ดังกล่าวให้แก่โจทก์และได้เสียค่าธรรมเนียมนำส่งแล้ว ปรากฏตามหลักฐานการนำส่ง เอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 2 จำเลยจึงมิได้ทิ้งคำร้องแต่อย่างใด โปรดมีคำสั่งเพิกถอน คำสั่งที่ว่าจำเลยทิ้งคำร้องและรับคำร้องขอทุเลาการบังคับ ของจำเลยเพื่อดำเนินการต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 82)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ เป็นเงินจำนวน 75,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่ง ต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยฎีกา และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ ศาลชั้นต้น มีหมายแจ้งคำสั่งให้จำเลยนำส่งสำเนาคำร้องขอทุเลาการบังคับแก่โจทก์ภายใน 7 วัน ทนายจำเลยได้รับหมายเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2536(อันดับ 70,68,77,78)
ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลได้มีรายงานฉบับลงวันที่ 20 มกราคม 2537 ว่าจำเลยไม่ได้นำส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์ บัดนี้พ้นกำหนด เวลาแล้ว ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้ส่งสำนวนคืนศาลฎีกา (อันดับ 79) ศาลฎีกามีคำสั่งคำร้องที่ 728/2537 ว่าจำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินการส่งสำเนาคำร้องขอทุเลาการบังคับตาม คำสั่งศาลชั้นต้นเป็นการทิ้งคำร้อง ให้จำหน่ายคำร้องของจำเลย
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 80)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ตามสำเนาการวางเงินค่านำหมายเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 2 ปรากฏว่าเป็นการวางเงินค่านำหมาย เพื่อส่งสำเนาคำร้องขอทุเลาการบังคับในคดีแพ่งหมายเลขแดง ที่ 17712/2533 แต่คดีนี้เป็นคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 17713/2533 ดังนั้นหลักฐานดังกล่าวยังฟังไม่ได้ว่า จำเลยได้นำส่งสำเนา คำร้องขอทุเลาการบังคับให้แก่โจทก์แล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอน คำสั่งของศาลฎีกาที่สั่งให้จำหน่ายคำร้องขอทุเลาการบังคับ ในระหว่างฎีกาของจำเลย ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ